SWAP เรื่องพื้นฐานที่หลายคนยังไม่เคยรู้เมื่อเข้ามาเทรดในตลาด Forex

เข้ามาในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือ Forex (Foreign Exchange) บางครั้งอาจจะรู้สึกว่ามีคำศัพท์และแนวคิดบางอย่างที่มีความซับซ้อน เป็นเรื่องใหม่ๆ ที่ต้องเรียนรู้ เป็นอย่างพิเศษ หนึ่งในคำศัพท์ที่อาจจะทำให้หลายๆ คนสับสนคือ “SWAP” หรือ “ค่าคงที่” ในตลาด Forex ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ SWAP ในแง่มุมของพื้นฐานและการใช้งานในตลาด เทรด Forex

SWAP หมายถึงค่าคงที่ที่เกิดขึ้นในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดย SWAP มักเกิดขึ้นเมื่อคุณถือตำแหน่งซื้อหรือขายค้างคืน (overnight) ในตลาด Forex ค่า SWAP มักจะแสดงออกมาเป็นอัตราเฉลี่ยของดอกเบี้ยร้อยละต่อปีที่ต้องจ่ายหรือรับตามตำแหน่งที่คุณถืออยู่

SWAP มีหลายประเภท

แต่สองประเภทที่มีการใช้งานมากที่สุดคือ Positive SWAP (SWAP บวก) และ Negative SWAP (SWAP ลบ)

  1. Positive SWAP (SWAP บวก):
    • Positive SWAP เกิดขึ้นเมื่อคุณถือตำแหน่งที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าในคู่เงินตราที่คุณเทรด
    • คุณจะได้รับ SWAP บวกเข้าสู่บัญชีซื้อขายของคุณเป็นเงิน
    • Positive SWAP เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการถือตำแหน่งในระยะยาว
  2. Negative SWAP (SWAP ลบ):
    • Negative SWAP เกิดขึ้นเมื่อคุณถือตำแหน่งที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าในคู่เงินตราที่คุณเทรด
    • คุณจะต้องจ่าย SWAP ลบออกจากบัญชีซื้อขายของคุณ
    • Negative SWAP อาจกำเนิดค่าใช้จ่ายในกรณีที่คุณถือตำแหน่งในระยะยาว

การคำนวณ SWAP จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยรวมถึง:

  • อัตราดอกเบี้ยของคู่เงินตรา
  • ตำแหน่งที่คุณถือ (ซื้อหรือขาย)
  • ปริมาณการซื้อขาย (สัญญาการซื้อขาย)
  • จำนวนเงินที่คุณถือ

การเรียนรู้เกี่ยวกับ SWAP จะช่วยให้คุณทราบถึงค่าใช้จ่ายหรือรายได้ที่อาจจะเกิดขึ้นในการถือตำแหน่ง เทรด Forex ในระยะยาว นอกจากนี้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ SWAP ยังเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนการเทรดและการจัดการความเสี่ยงในตลาด Forex ด้วย

สรุปแล้ว การเรียนรู้เกี่ยวกับ SWAP เป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขาย Forex และสามารถมีผลกับผลกำไรและขาดทุนของคุณในระยะยาว ควรทำการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับ SWAP อย่างละเอียดเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องในการเทรด Forex ในอนาคต.

ตลาด Forex ที่เราเทรดๆกันอยู่ทุกวันนี้หลายๆคนคงรู้อยู่แล้วว่าเราเทรดได้ 24 ชั่วโมง วันจันทร์-ศุกร์

แต่ที่หลายคนยังไม่รู้ว่าชื่อเต็มๆของมัน คือ The Foreign Exchange Market

ตลาดนี้เรียกได้ว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแง่ของ daily transaction volume

Forex ที่เราเทรดกันผ่านโบรคทุกวันนี้นั้น เป็นรูปแบบหนึ่งของ CFD(Contract For Differences) ถ้าแปลออกมากลมๆ ไอตัว Forex CFD นี้ ก็อ้างอิงราคามาจาก underlying forex pair ก็อ้างอิงราคาตามสินทรัพย์จริงที่อาจจะเรียกได้ว่า Realtime เลยก็ว่าได้

ปล.วันหลังจะมาเขียนเรื่อง CFD ให้ วันนี้เอา SWAP ไปก่อนเดี๋ยวสมองระเบิดตาย

แล้วอีกเรื่องที่คนเข้ามาเทรดแต่ไม่เคยดูเลย ก็คือ SWAP นั่นเอง

บางคนเกิดความสงสัยว่าทำไมพอร์ตเรา Hedging แล้ว เงินในพอร์ตทำไมลดลง

มาดูกันก่อนว่าค่า SWAP โดยหลักการแล้วมันเกิดจากอะไร

การเทรด Forex นั้นเราเทรดกันเป็นคู่ การเทรดเป็นคู่ มันก็คือการยืม(borrowing) ค่าเงินสกุลนึงจากโบรค เพื่อมาขาย แล้วก็ไปฝาก(depositing)อีกสกุล : ตรงนี้อ่านแล้วจะงงๆ ถ้างงๆ อ่านด้านล่างจะเข้าใจมากขึ้น

คำว่า ยืม(borrowing) หรือ ฝาก(depositing) สกุลเงินกับสถาบันการเงินนั้นจะมีอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นกับทั้ง 2 สกุล

เหมือนกับ

เรากู้เงินธนาคาร = ยืม(borrowing) >> เราเป็นคนจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคาร

เราฝากเงินในธนาคาร = ฝาก(depositing) >> ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยให้เรา

เหมือนกับ

Sell Currency >> เราเสียดอกเบี้ย

Buy Currency >> เราได้ดอกเบี้ย

ส่วนนี้เราจะถูกคิดเป็นรายวันที่เราเปิดสถานะทิ้งไว้ ทางโบรคจะคิดให้อัตโนมัติ

ตัวอย่าง

Buy EURUSD

การที่เรา BUY EURUSD มันก็คือ

Buy EUR

Sell USD

สมมติว่า

ดอกเบี้ย EUR $4

ดอกเบี้ย USD $5

Buy EUR >> ได้ดอกเบี้ย $4

Sell USD >> เสียดอกเบี้ย $5

การ BUY EURUSD มันก็แปลแบบกลมๆได้ว่า เรายืมเงินจาก USD(เสียดอกเบี้ย $5) มาฝากเงิน EUR(ได้ดอกเบี้ย $4)

ดอก USD > ดอก EUR

4-5 = -1

ดังนั้นเราเลยเห็นว่าดอกเบี้ยเป็น –

ส่วนต่างส่วนนี้เราเรียกว่า SWAP Point

ซึ่งเราจะเห็นแต่ละโบรคเรทดอกเบี้ยจะแตกต่างกัน ส่วนใหญ่เราจะเจอดอกเบี้ยฝั่งบวก น้อย กว่าฝั่งลบ

จงจำไว้ว่าโบรคไม่ใช่องค์การแสวงหากำไรดังนั้นการที่เค้ามีกำไรจากค่า SWAP นั่นถูกแล้วในทางธุรกิจ เราขายหมูปิ้งเราก็ต้องการกำไร โบรคก็เช่นกัน

NO SWAP เค้าอาจจะไปบวกตรงอื่น

0